Advertisement
Leaderboard 728x90

กพท.จับมือICAOเดินหน้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในอุตฯการบิน

สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.)จับมือ องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ(ICAO) ถกปมลดปล่อยก๊าซคาร์บอนด้านการบินในระดับภูมิภาค เดินหน้าลดคาร์บอนตามเป้าหมายระยะยาว ย้ำไม่กระทบต้นทุนและค่าโดยสารและเกิดความคุ้มค่าในอนาคต

นายชยธรรม์ พรหมศร

นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานสัมมนา 2023 ICAO Environmental Regional Seminar for the APAC Region ว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบาย ส่งเสริมให้กิจการเดินทางในรูปแบบต่างๆ ทั้งถนน ราง น้ำ อากาศ เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่บรรยากาศ ลดปัญหาสิ่งแวดล้อมและภาวะเรือนกระจก ที่นับวันจะทวีความรุนแรงขึ้น ซึ่งการสัมมนาในครั้งนี้ กระทรวงคมนาคม โดยสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้ให้ความร่วมมือองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ(ICAO) ในการผลักดันร่วมกับประเทศสมาชิก เพื่อส่งเสริมให้อุตสาหกรรมด้านการบินดำเนินกิจกรรมที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่บรรยากาศ โดยมีมีมาตรการต่างๆ ที่รองรับผู้ประกอบการด้วย เพื่อเป็นการเดินหน้าแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง

Advertisement
Kreamy Proof

นายสุทธิพงษ์ คงพูล

นายสุทธิพงษ์ คงพูล ผู้อำนวยการ กพท. กล่าวว่า การสัมมนาในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความร่วมมือและความรู้ความเข้าใจระหว่างกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ในการดำเนินการตามแนวทางลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตามเป้าหมาย Long Term Aspirational Goal (LTAG) ที่ได้มีการรับรองในที่ประชุมสมัชชา ICAO ครั้งที่ 41 เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ.2565 โดยครั้งนี้มีผู้แทนหน่วยงานภาครัฐระดับสูงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศต่างๆ ในกลุ่มเอเชียแปซิฟิกเข้าร่วมกว่า 200 คน โดยมีกรอบเป้าหมายใหญ่ที่จะปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2050 ซึ่งทำให้ประเทศสมาชิกต้องเร่งดำเนินการเพื่อเตรียมตัว

ทั้งนี้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2565 กพท.ได้เริ่มดำเนินการภายใต้โปรแกรมโครงการ Carbon Offsetting and Reduction Scheme for International Aviation (CORSIA) ของ ICAO ซึ่งให้สายการบินที่ทำการบินระหว่างประเทศ 8 สาย ได้แก่ การบินไทย,ไทยสมายล์,นกแอร์,ไทยแอร์เอเชีย,ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์,ไทยเวียตเจ็ท,ไทยไลอ้อนแอร์, เค-ไมล์ แอร์ รายงานข้อมูลปริมาณกิจกรรมที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอน เช่น ปริมาณการน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นต้น เพื่อมอนิเตอร์ และนำไปสู่การควบคุมการปล่อยก๊าซคาร์บอนของอากาศยาน ซึ่งไทยเป็น 1 ใน 70 ประเทศที่เข้าร่วมโครงการก่อนที่ICAO จะออกประกาศบังคับ เป็นการเตรียมความพร้อม เพราะต่อไป สายการบินที่ปล่อยก๊าซคาร์บอน เกินเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดจะต้องจ่ายค่าชดเชย ขณะที่สายการบินที่ควบคุมหรือมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ดี จะได้รับเป็น”คาร์บอนเครดิต” ซึ่งมีมูลค่าและสามารถขายได้

“จากข้อมูลพบว่า ช่วงที่เครื่องบินใช้น้ำมันสิ้นเปลืองและปล่อยก๊าซมากคือ ช่วงทำการบินขึ้น ดังนั้น ช่วงแท็กซี่จากหลุมจอดไปยังรันเวย์ ปัจจุบัน จะใช้เครื่องยนต์เดียว จากเดิมที่ใช้เครื่องยนต์ทั้งหมด (2 เครื่องยนต์ /4 เครื่องยนต์) ซึ่งจะทำให้ลดการใช้น้ำมันลงได้25- 50% หรือช่วงเครื่องบินลดระดับเพื่อเตรียมลงจอด เดิมจะลดระดับแบบขั้นบันได ซึ่งจะมีการเร่งเครื่องหลายรอบ สิ้นเปลืองน้ำมัน ปรับเป็นการลดระดับต่อเนื่อง ทั้งนี้ต้องทำงานร่วมกับวิทยุการบินเพื่อจัดการจราจรในระดับเพดานบินให้สอดคล้อง ต้องฝึกบุคลากรและมีเครื่องมือเทคโนโลยีที่รองรับด้วย โดยรูปแบบนี้พบว่า ลดการใช้น้ำมันได้ 40% เป็นต้น”นายสุทธิพงษ์ กล่าว

การลดปล่อยก๊าซคาร์บอนในอุตสาหกรรมสายการบิน อาจจะมีค่าใช้จ่ายในระยะแรก แต่ เป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปและเชื่อว่า จะไม่ส่งผลกระทบที่ทำให้ต้องเพิ่มค่าโดยสาร แต่หากไม่มีการเตรียมความพร้อมต่อไป ICAO ประกาศเรื่องคาร์บอนเครดิตแล้วสายการบินทำไม่ได้ จะต้องจ่ายชดเชย นั่นคือต้นทุนเพิ่มที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นการเริ่มลงทุนตั้งแต่ตอนนี้เพื่อควบคุมต้นทุนในอนาคตได้ดีซึ่งคุ้มค่ากว่า

Advertisement
The Xpozir

Advertisement
Leaderboard 728x90
Advertisement
Billboard