ชายสี่ คอร์ปอเรชั่น ผู้นำสตรีตฟู้ดแฟรนไชส์ครบวงจรอันดับ 1 ของไทย ประกาศกลยุทธ์ใหม่ มุ่งสู่เป้าหมาย “ครัวของทุกบ้าน อาหารของทุกคน หนึ่งในใจทุกเวลา” พลิกโฉมครั้งยิ่งใหญ่ครอบคลุมทั้ง ปรับภาพลักษณ์แบรนด์ ยกระดับมาตรฐานแฟรนไชส์ พัฒนาสินค้าใหม่ และขยายความร่วมมือกับพันธมิตร มั่นใจสร้างยอดขายเพิ่ม เติบโตได้ยั่งยืน พร้อมอวดผลงานล่าสุดกำไรเติบโต 121% ขึ้นแท่นสตรีตฟู้ดที่หนึ่งในใจคนไทยตลอดไป
นายพันธ์รบ กำลา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ชายสี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า กว่า 30 ปี แห่งการเติบโตของ ชายสี่ บะหมี่เกี๊ยวจากร้านรถเข็นริมทางเพียงร้านเดียว กลายมาเป็นแบรนด์ร้านบะหมี่ริมทางที่มีสาขาทั่วประเทศและเป็นที่หนึ่งในใจของคนไทย ความสำเร็จนี้เกิดจากหัวใจของเราที่รักในการบริการ มุ่งมั่นในการส่งมอบอาหารอร่อย คุณภาพสูงให้กับลูกค้า วันนี้เมื่อธุรกิจเติบโตขึ้นอย่างมาก ประกอบกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ถึงเวลาที่เราจะต้องยกระดับธุรกิจและองค์กรให้สอดรับและเท่าทันกับการเปลี่ยนแปลง จึงเปิดโอกาสให้ผู้บริหารมืออาชีพรุ่นใหม่ เข้ามาเติมไฟให้กับธุรกิจ เดินหน้าสู่การทรานส์ฟอร์มภายใต้ชื่อ “ชายสี่ คอร์ปอเรชั่น” ส่งมอบอาหารและบริการที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า และพร้อมขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตต่ออย่างมั่นคงและยั่งยืนซึ่งหลังจากทรานส์ฟอร์มฯ ร่วม 1 ปี ผลประกอบการขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะปี 2566 กำไรสุทธิ เติบโต 121% “ทำให้เรารู้ว่าเรามาถูกทาง”โดยรายได้ย้อนหลัง 3 ปี (พ.ศ. 2564 – 2566) ของชายสี่ คอร์ปอเรชั่น ดังนี้
-
- ปี 2566 รายได้ 1,117 ล้านบาท กำไรสุทธิ 126.6 ล้านบาท
- ปี 2565 รายได้ 1,078 ล้านบาท กำไรสุทธิ 57.3 ล้านบาท
- ปี 2564 รายได้ 944 ล้านบาท กำไรสุทธิ 64.8 ล้านบาท
สำหรับปี 2567 บริษัทตั้งเป้ารายได้ 1,506 ล้านบาท เติบโต 25% ส่วนกำไรวางการขยายตัว 10% จากปีก่อนทำรายได้ 1,117 ล้านบาท และกำไร 126.6 ล้านบาท
นายอนุชิต สรรพอาษา กรรมการผู้จัดการบริษัท ชายสี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าอนาคตอยากมีรายได้หลัก 10,000 ล้านบาท การเติบโตแบบก้าวกระโดด แผนระยะสั้น คือ การซื้อกิจการแบรนด์ร้านอาหารยอดนิยมอื่น ๆ 5-10 แบรนด์เติมพอร์ตฯ เพราะตลาดสตรีทฟู้ดมีมูลค่ากว่า 300,000 ล้านบาท ยังมีช่องว่างอยู่อีกมาก“ทำเองรวยช้า ถ้ามีเงินขอซื้อดีกว่า แต่ขอแบรนด์ที่มีใจร่วมทำไปกับเรา จุดนี้จะทำให้แบรนด์เราโตแบบก้าวกระโดด”
สตรีทฟู้ดการแข่งขันสูงกว่าเมื่อ 30 ปีก่อน ที่แฟรนไชส์มีแค่ก๋วยเตี๋ยว ตอนนี้มีทั้งไก่ทอด และอื่น ๆ ทำให้เราคิดเรื่องการซื้อกิจการแบรนด์อื่น ๆ เพื่อขยายตลาดต่อเนื่อง โดยเราจะเข้าไปซื้อหุ้นในสัดส่วน 50% ขึ้นไปโดยแบรนด์ที่เราซื้อกิจการมา จะนำมาแตกโมเดลเป็นสตรีทฟู้ด ร้านรถเข็น ควบคู่กับการขยายสาขาในหน้าร้านอื่น ๆ ด้วย
ขณะเดียวกันจากการขยายพอร์ตฯ ฟู้ดรีเทล แบรนด์เสือร้องไห้ และบริกซ์ ที่ต้องขยายสาขาเอง ทำให้สาขาที่ลงทุนเองจะมีสัดส่วนเป็น 20% จากเดิมอยู่ที่ 10% ส่งผลให้สัดส่วนแฟรนไชส์ ลดลงเหลือ 80% จากเดิมครองสัดส่วน 90% อย่างไรก็ดี แบรนด์ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว ยังคงขยายสาขาเพิ่มเป็น 6,000 สาขา จากเดิมมี 4,500 สาขา ส่วนแบรนด์แฟรนไชส์อื่น ๆ จะขยายสาขารวม ๆ หลัก 100 สาขา
นอกจากนี้ ยังเตรียมขยายศูนย์กลางการกระจายสินค้าเพิ่มอีก 3 แห่ง คือ ยโสธร หาดใหญ่ และนครราชสีมา ใช้งบประมาณรวม ๆ หลักล้านบาท/แห่ง จากเดิมมีโรงงานผลิตทั้งหมด 7 แห่ง ได้แก่
- ภาคเหนือ : ลำปาง พิษณุโลก
- ภาคอีสาน : มหาสารคาม อุดรธานี
- ภาคกลาง : กรุงเทพ (สำนักงานใหญ่)
- ภาคตะวันออก : ชลบุรี
- ภาคใต้ : สุราษฎร์ธานี
ขณะเดียวกัน ชายสี่ คอร์ปอเรชั่น ได้ร่วมทุน (JV) กับกลุ่ม Cabalen Group ยักษ์อาหารประเทศฟิลิปปินส์
โดยเฟส 1 ลงทุนสร้างโรงงานเส้น ภายใต้งบประมาณ 30 ล้านบาท นำร่องด้วยแบรนด์ “ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว” ซึ่งจะนำไปขายในร้านอาหารในเครือ Cabalenส่วนตัวแฟรนไชส์ น่าจะขยายเข้าฟิลิปปินส์ในปลายปี 2567 – ต้นปี 2568
นอกจากนี้ ยังได้เจรจากับ ประเทศญี่ปุ่น เตรียมทำ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป รูปแบบกล่อง ของชายสี่ บุกซูเปอร์มาร์เก็ตญี่ปุ่น นอกจากการบุกเมืองนอกแล้ว บริษัทฯ ยังมองเรื่องนำแบรนด์ต่างประเทศมาขยายที่ประเทศไทยอีกด้วย
