กรมการค้าภายในขอความร่วมมือโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม รับซื้อผลปาล์มที่กิโลกรัมละ 4.50 บาท พร้อมกำหนดมาตรการเข้ม ทั้งแจ้งการรับซื้อ การหีบ ราคาซื้อ การเข้าคิว ปิดโรงงานต้องแจ้ง ส่วนลานเท ต้องปิดป้ายรับซื้อให้ชัดเจน ห้ามทำลูกร่วงผิดธรรมชาติ ขอเกษตรกรชะลอตัด เพื่อให้ปาล์มสุกเต็มที่และได้เปอร์เซ็นต์น้ำมันสูงขึ้น ย้ำส่งสายตรวจเฉพาะกิจตรวจต่อเนื่อง หากพบผิดฟันไม่เลี้ยง ล่าสุดราคาดีดตัวขึ้น กก.ละ 4.70 บาทแล้ว
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมได้หารือกับโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม ลานเท และตัวแทนกลุ่มเกษตรกรปาล์มน้ำมัน เพื่อติดตามสถานการณ์ผลผลิตปาล์มและราคาผลปาล์ม ตามที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้เข้าไปดูแลและแก้ไขปัญหา โดยหลังจากลงพื้นที่และได้หารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว ได้ขอความร่วมมือให้โรงงานสกัดรับซื้อผลปาล์มให้สอดคล้องกับกำลังการผลิต และรับซื้อในราคากิโลกรัม (กก.) ละ 4.50 บาท ส่วนลานเท ให้รับซื้อในราคาที่สอดคล้องกัน แต่สามารถหักเป็นค่าขนส่งเพื่อส่งไปยังโรงงานสกัดได้
ทั้งนี้ ยังได้กำหนดมาตรการบริหารจัดการ โดยโรงงานสกัดต้องแจ้งปริมาณการรับซื้อ ปริมาณการเข้าหีบ เปอร์เซ็นน้ำมันที่ได้ ราคารับซื้อ ราคาขายน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) แจ้งปริมาณคิว หรือถ้าต้องปิดการรับซื้อ หรือเครื่องจักรเสีย ต้องหยุดโรงงาน ก็ต้องแจ้ง ลานเท ต้องปิดป้ายแสดงราคารับซื้อ และห้ามทำลูกร่วงผิดธรรมชาติ ส่วนเกษตรกร ขอให้ชะลอการตัดปาล์ม เพื่อไม่ให้ผลปาล์มเข้าโรงงานสกัดมากจนเกินไป และเพื่อให้ปาล์มสุกเต็มที่และได้เปอร์เซ็นน้ำมันปาล์มสูงขึ้น
“กรมจะจัดส่งสายตรวจเฉพาะกิจ ลงพื้นที่แหล่งปลูกปาล์ม เพื่อตรวจสอบการรับซื้อ ทั้งโรงงานสกัด ลานเท ว่ามีการปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดหรือไม่มีการรับซื้อตามราคาที่กำหนดหรือไม่ และที่บอกว่าติดคิว ติดยังไง หรือบางโรงที่บอกว่าเครื่องจักรเสีย จริงหรือไม่ และยังจะดูเรื่องการรับซื้อ มีการกดราคา หรือเอาเปรียบเครื่องชั่งหรือไม่ โดยหากพบการกระทำผิด ก็จะดำเนินการตามกฎหมายเด็ดขาด เพื่อให้เกษตรกรผ่านวิกฤตราคาปาล์มครั้งนี้ไปได้ และกรมยังจะติดตามสถานการณ์ทุกสัปดาห์ด้วย”นายวัฒนศักย์กล่าว
สำหรับราคาผลปาล์มล่าสุด อยู่ที่ กก.ละ 4.70 บาท สูงสุด 4.90 บาท น้ำมันปาล์มดิบ กก.ละ 33 บาท น้ำมันปาล์มขวด 44 บาท แต่ในห้างมีการจัดโปรโมชัน 40-44 บาท
ส่วนสาเหตุที่ราคาผลปาล์มปรับตัวลดลงก่อนหน้านี้ เนื่องจากผลผลิตปาล์มน้ำมัน ออกสู่ตลาดมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. ผลผลิตเพิ่มขึ้นจากปกติ 18-20% และยังมีปัญหาเรื่องอากาศร้อน แล้ง ก่อนหน้านี้ ทำให้ปาล์มสุกไม่เท่ากัน ส่งผลให้เปอร์เซ็นน้ำมันลดลง และยังมีปัญหาเรื่องปาล์มไปตกค้างอยู่ที่โรงงานสกัด และนำเข้าหีบไม่ทัน ก็เลยเกิดการชะลอการรับซื้อ แต่หลังจากที่ได้เข้าไปแก้ไขปัญหา ขณะนี้ สถานการณ์เป็นปกติแล้ว และมั่นใจว่าราคาจะปรับตัวดีขึ้นต่อไป
