Advertisement
Leaderboard 728x90

รัฐบาลพร้อมเดินหน้าโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet มอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดทำรายละเอียดการดำเนินโครงการให้ชัดเจนขึ้น

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ครั้งที่ 4/2567 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีนายพิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายเผ่าภูมิ โรจนสกุลรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เข้าร่วมด้วย

ภายหลังการประชุมฯ นายกฯเปิดเผยถึงการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet วันนี้ว่า  เป็นการรับทราบการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงเกี่ยวกับรายละเอียดการดำเนินโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ให้มีความชัดเจนขึ้นซึ่งมีหลายเรื่องทั้งการเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดลงทะเบียนการดำเนินการรองรับการใช้งานของประชาชนและร้านค้า ประเภทสินค้าตลอดจนรายละเอียดเงื่อนไขของการรับสิทธิ์และแนวทางการป้องกันการทุจริตประพฤติมิชอบและตรวจสอบการกระทำผิดเงื่อนไขโครงการฯส่วนกรณีที่มีผู้ไม่หวังดีมีการแอบอ้างให้โหลดแอปต่าง ๆ นั้น นายกฯย้ำขอให้คอยฟังจากทางหน่วยงานรัฐบาลเท่านั้น พร้อมกันนี้นายกฯได้มอบให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังแถลงรายละเอียดให้รับทราบต่อไป

Advertisement
Kreamy Proof

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบในแหล่งที่มาของเงินใหม่โดยได้ดำเนินการตามข้อห่วงใยของหน่วยงานตรวจสอบและไปดูแหล่งที่มาและกรอบวงเงินที่ตัวเลข 4.5 แสนล้านบาท และไม่มีการปรับขนาดโครงการยังเป็น 50 ล้านคนหากมีคนลงทะเบียนน้อยกว่าหรือมากกว่าจะใช้กลไกในการบริหารงบประมาณเพื่อให้มีเงินทุกบาททุกสตางค์เพียงพอสําหรับโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet

สำหรับเรื่องตัวเงินที่เตรียมไว้ที่ประชุมมีมติเห็นชอบในแหล่งที่มาของเงินใหม่คือไม่มี มาตรา 28 พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐโดยงบประมาณที่ใช้ประกอบด้วยงบประมาณปี 2567 และ ปี 2568 ซึ่งเพียงพอและสามารถดำเนินการได้ภายในกรอบของงบประมาณโดยแหล่งเงินจากงบประมาณปี 2567 และ ปี 2568 มีดังนี้ (1) การบริหารการคลังและการบริหารจัดการเงินงบประมาณร่ายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 วงเงิน 165,000 ล้านบาท ประกอบด้วยแหล่งเงินจากงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ปีงบประมาณ 2567 วงเงิน 122,000 ล้านบาท และที่เหลืออีก 43,000 ล้านบาทเป็นการบริหารการคลังและบริหารจัดการเงินงบประมาณตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ (2) การบริหารการคลังและการบริหารจัดการเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 วงเงิน 285,000 ล้านบาท ประกอบด้วย งบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ 2568 ที่ตั้งไว้แล้ว 152,700 ล้านบาทและการบริหารการคลังและบริหารจัดการเงินงบประมาณตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณวงเงิน 132,300 ล้านบาท

ส่วนกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)มีความเห็นและข้อห่วงใยเรื่องระบบการโอนเงิน จะต้องปลอดภัยและมั่นคงนั้นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังกล่าวว่าเรื่องนี้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำเสนอในที่ประชุมซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานและอยู่ในกรอบความมั่นคงปลอดภัยสูงสุด ยืนยันว่าไทม์ไลน์โครงการยังอยู่ในกรอบเดิม คือเงินถึงมือประชาชนในไตรมาส 4 ปี 2568 โดยความชัดเจนทั้งหมดนายกรัฐมนตรีจะมีการแถลงในวันที่ 24 กรกฎาคมนี้และจะนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป

ส่วนของสินค้า Negative List นั้นที่ประชุมได้เห็นชอบตามมติคณะอนุกรรมการกำกับฯ เสนอแต่มีข้อสังเกตในที่ประชุมเปิดความยืดหยุ่นให้กระทรวงพาณิชย์พิจารณาตามความจำเป็นเหมาะสม เช่น สินค้าอาวุธยุทโธปกรณ์ อาทิ ปืนซึ่งเป็นอีกหนึ่งกลุ่มพิจารณาที่ให้กระทรวงพาณิชย์ไปพิจารณาว่าเหมาะสมร่วมโครงการหรือไม่นอกจากนี้มีข้อเสนอให้ตัดสิทธิกลุ่มที่เคยทำผิดเงื่อนไขโครงการรัฐในอดีตเช่น มีการถูกเรียกเงินคืน ทั้งในส่วนร้านค้า และประชาชนออกไป

Advertisement
The Xpozir

Advertisement
Leaderboard 728x90
Advertisement
Billboard