Advertisement
Leaderboard 728x90

สนค. เผยส่งออก ก.ค.67 ฟื้นตัวพุ่ง 15.2% สูงสุดรอบ 28 เดือน รวม 7 เดือนโต 3.8%

สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์เผย การส่งออก ก.ค.67 มูลค่า 25,720.6 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 15.2% พลิกกลับมาเป็นบวกและเติบโตสูงสุดในรอบ 28 เดือน เหตุส่งออกเพิ่มทั้งเกษตร อุตสาหกรรมเกษตรและอุตสาหกรรม รวมยอด 7 เดือน มูลค่า 171,010.6 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 3.8% ยันเป้าทั้งปีตามเป้า 1-2% มีลุ้นแตะกรอบบนที่ 2%

นายพูนพงษ์นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.)เปิดเผยว่า การส่งออกเดือน ก.ค.2567 มีมูลค่า 25,720.6 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 15.2% กลับมาขยายตัวเป็นบวกและเติบโตสูงสุดในรอบ 28 เดือน นับตั้งแต่เดือน มี.ค.2565 คิดเป็นเงินบาทมูลค่า 938,285 ล้านบาท การนำเข้ามีมูลค่า 27,093.8 ล้านเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้น 13.1% คิดเป็นเงินบาท มูลค่า 999,755 ล้านบาท ขาดดุลการค้า 1,373.2 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินบาท มูลค่า 61,470 ล้านบาท รวม 7 เดือนของปี 2567 (ม.ค.-ก.ค.) การส่งออก มีมูลค่า 171,010.6 ล้านเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้น 3.8% คิดเป็นเงินบาท มูลค่า 6,129,300 ล้านบาท การนำเข้า มูลค่า 177,626.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 4.4% คิดเป็นเงินบาท มูลค่า 6,437,235 ล้านบาท ขาดดุลการค้า 6,615.9 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินบาท มูลค่า 307,935 ล้านบาท

Advertisement
Kreamy Proof

สำหรับการส่งออกที่เพิ่มขึ้นมาจากการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร เพิ่ม 8.7% โดยสินค้าเกษตรเพิ่ม 3.7% สินค้าอุตสาหกรรมเกษตร เพิ่ม 14.6% สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่นยางพารา ข้าว ไก่สด แช่เย็น แช่แข็ง และแปรรูป อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูปอาหารสัตว์เลี้ยง และไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ ส่วนสินค้าที่หดตัว เช่นผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง น้ำตาลทรายและเครื่องดื่ม ทั้งนี้ 7 เดือนของปี 2567 การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรขยายตัว เพิ่ม 4%

ส่วนการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่ม 15.6% โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น สินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมันเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องโทรศัพท์อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ส่วนสินค้าที่ลดลงเช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า อุปกรณ์กึ่งตัวนำทรานซิสเตอร์และไดโอด เครื่องยนต์สันดาปภายในลูกสูบและส่วนประกอบ ทั้งนี้ 7 เดือนของปี 2567 การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัว 3.8%

ทางด้านตลาดส่งออกส่วนใหญ่ขยายตัวได้ดี โดยตลาดหลัก เพิ่ม 16.2% ได้แก่ สหรัฐฯ สหภาพยุโรป (27 ประเทศ) และ CLMV เพิ่ม 26.3% 17.1% และ 19.8% ตามลำดับ จีน เพิ่ม 9.9% และอาเซียน (5 ประเทศ) เพิ่ม 17.8% แต่ญี่ปุ่น ลด 2.5% ตลาดรอง เพิ่ม 4.6% โดยเอเชียใต้ เพิ่ม 29.5% ลาตินอเมริกา เพิ่ม 4.4% รัสเซียและกลุ่ม CIS เพิ่ม 0.5% และสหราชอาณาจักร เพิ่ม 13.3% แต่ทวีปออสเตรเลีย ลด 2.8% ตะวันออกกลาง ลด 3.7% แอฟริกา ลด 6.7% ตลาดอื่น ๆ เพิ่ม 331.3%

“ปัจจัยที่ทำให้การส่งออกเดือนก.ค.กลับมาขยายตัว มาจากการชะลอตัวของอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยทั่วโลกช่วยเพิ่มอำนาจซื้อให้กับผู้บริโภคการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นและการปรับตัวของค่าจ้างในประเทศคู่ค้าสำคัญโดยเฉพาะในยุโรป ส่งผลให้การบริโภคฟื้นตัว เป็นปัจจัยบวกต่อการส่งออกของไทยโดยตลาดหลักที่กลับมาฟื้นตัวได้ดี อาทิ สหรัฐฯ จีน อาเซียน และสหภาพยุโรปสอดคล้องกับการคาดการณ์เศรษฐกิจโลกของ IMF ที่ประเมินว่าเศรษฐกิจโลกจะได้รับปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนจากการส่งออกที่ขยายตัวได้ดีและเศรษฐกิจยุโรปที่ฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดแล้ว”นายพูนพงษ์กล่าว

Advertisement
The Xpozir

สำหรับแนวโน้มการส่งออก เดือน ส.ค.2567 คาดว่า จะขยายตัวได้ต่อเนื่องและในช่วงที่เหลือของปีนี้อีก 5 เดือน หากส่งออกได้เฉลี่ยเดือนละ 24,000 ล้านเหรียญสหรัฐ การส่งออกทั้งปีก็จะอยู่ในกรอบเป้าบน คือ ที่ 2% จากเป้าทั้งปีที่ตั้งไว้ที่ 1-2% ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตาม คือเงินบาทที่แข็งค่า เพราะมีผลกระทบต่อผู้ส่งออกพอสมควรทำให้แข่งขันเรื่องราคาได้ยากขึ้น และต้องดูปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังยืดเยื้อ ทั้งตะวันออกกลาง รัสเซีย-ยูเครน ที่ยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยง

นายชัยชาญเจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่าตอนนี้เรื่องค่าระวางเรือ ไม่ใช่ปัญหาที่ต้องหนักใจแม้ว่ายังอยู่ในระดับสูง ไม่ได้เพิ่มขึ้น แต่มีแนวโน้มอ่อนตัวลงส่วนค่าระวางไปยุโรป เพิ่มขึ้น 2 เท่า ไปอเมริกา เริ่มอ่อนตัวลงส่วนตู้คอนเทนเนอร์ มีเพียงพอ และค่าเงินบาทที่แข็งค่า ทำให้กำไรลดลงแต่คำสั่งซื้อใหม่ที่จะเข้ามาช่วงปลายปีถึงปีใหม่ ต้องพิจารณาให้รอบคอบสำหรับเป้าส่งออกทั้งปี มั่นใจว่า จะทำได้ตามเป้า 1-2% ซึ่งเป็นผลมาจากการทำงานร่วมกันของภาครัฐและเอกชน


Advertisement
Leaderboard 728x90
Advertisement
Billboard