Advertisement
Leaderboard 728x90

Krungthai COMPASS เปิด 6 เทรนด์ท่องเที่ยวยุคใหม่

ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ประเมินนักท่องเที่ยวต่างชาติมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง มีโอกาสแตะ 40 ล้านคน เท่ากับช่วงก่อนเกิดโควิด หนุนให้รายได้ภาคท่องเที่ยวไทยแตะ 3  ล้านล้านบาท ในปี 2568 เปิด 6 เทรนด์การท่องเที่ยวยุคใหม่ดึงดูดนักท่องเที่ยวศักยภาพ มีการใช้จ่ายสูง  ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มภาคการท่องเที่ยวไทยไม่ต่ำกว่า 1.35 แสนล้านบาทแนะผู้ประกอบการปรับรูปแบบบริการสร้างโอกาสการเติบโตจากเทรนด์ท่องเที่ยวยุคใหม่

ดร.พชรพจน์ นันทรามาศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทยเปิดเผยว่า ภาคการท่องเที่ยวที่เป็นเครื่องยนต์สำคัญของเศรษฐกิจไทยมีสัญญาณฟื้นตัวชัดเจน โดยคาดว่า ในปี 2567 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมีโอกาสขึ้นไปแตะระดับ 36.5 ล้านคน และในปี 2568 มีโอกาสเข้าสู่ระดับเดียวกับช่วงก่อนโควิดที่ 40 ล้านคนแม้นักท่องเที่ยวจีนจะฟื้นตัวได้ต่ำกว่าช่วงก่อนโควิดที่ระดับ 65%-90% โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการเติบโตของนักท่องเที่ยวกลุ่มหลักอย่างมาเลเซียอินเดีย รัสเซีย และเกาหลีใต้ รวมถึงนักท่องเที่ยวกลุ่มยุโรปและตะวันออกกลาง ส่งผลให้รายได้รวมจากการท่องเที่ยวในปี 2567-2568 มีมูลค่าราว 2.65-3 ล้านล้านบาทแม้รายได้จะยังกระจุกตัวอยู่ในเมืองท่องเที่ยวหลักแต่การกระจายรายได้สู่จังหวัดเมืองรองเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้นโดยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 มีสัดส่วนราว 13.4% ของรายได้จากภาคการท่องเที่ยวโดยรวม ปรับเพิ่มขึ้นจากช่วงก่อนโควิดที่มีสัดส่วนเพียง 9.2% โดยเมืองรองยอดฮิต 5 อันดับแรก คือ สุพรรณบุรีสมุทรสงคราม เชียงราย จันทบุรี และอุดรธานีมีจำนวนนักท่องเที่ยวฟื้นตัวได้สูงกว่าช่วงก่อนโควิด ที่ระดับ 130%-343% สะท้อนให้เห็นว่านักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติมีความสนใจที่จะเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดเมืองรองมากขึ้น

นายธนา ตุลยกิจวัตร นักวิเคราะห์ ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS
กล่าวว่าพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวเปลี่ยนแปลงไปจากช่วงก่อนโควิดที่เน้นท่องเที่ยวแบบ Mass Tourism ไปสู่การท่องเที่ยวแบบเฉพาะเจาะจงมากขึ้น  ผนวกรวมกับนโยบายด้าน Soft Power ที่ภาครัฐพยายามผลักดันอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านอาหารไทยและการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ เกิดเป็นเทรนด์การท่องเที่ยวยุคใหม่ที่มีโอกาสสร้างมูลค่าเพิ่มให้ภาคการท่องเที่ยวไทยได้กว่า 1.35 แสนล้านบาท  ประกอบด้วย

Advertisement
อ่าวขนอม ซีฟู้ด

1.การท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism) โดยเฉพาะ Street Food ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นถึง 18.1% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด

2.การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม (Cultural Tourism) เช่น เทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวเข้าร่วมงานกว่า 7.8 แสนคน สร้างรายได้มากถึง 2,880 ล้านบาท

3.การท่องเที่ยวตามรอยภาพยนตร์ซีรีส์ หรือมิวสิกวิดีโอ (Film Tourism) ล่าสุดหลังจากที่มีการปล่อย MV เพลง “ROCKSTAR” ของ Lisa มีนักท่องเที่ยวตามไปถ่ายรูปเช็คอินที่ถนนเยาวราชจำนวนมากขณะที่กระแสรักษ์โลก รักษาสุขภาพ รวมถึงการเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยทำให้เกิดเทรนด์การท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่น่าสนใจ

4.การท่องเที่ยวแบบยั่งยืน (Sustainable Tourism) ซึ่งจากผลสำรวจโดย Booking.com พบว่า 3 ใน 4 ของนักท่องเที่ยวยุคใหม่ต้องการเดินทางท่องเที่ยวแบบอย่างยั่งยืนในอีก 12 เดือนข้างหน้า

Advertisement
The Xpozir

5.กลุ่ม Digital Nomad Tourism เป็นกลุ่มที่มีศักยภาพที่เติบโตขึ้นตามกระแส “Workcation” รูปแบบการทำงานในโลกยุคใหม่ที่มีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆและมีการค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนที่สูงกว่านักท่องเที่ยวทั่วไปเกือบเท่าตัว

6.การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Touris) ที่มีโอกาสเติบโตไปพร้อมกับจำนวนผู้สูงอายุและพฤติกรรมของคนทั่วโลกที่หันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น

นางสาววีระยา ทองเสือ นักวิเคราะห์ ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASSกล่าวว่าผู้ประกอบการไทยควรปรับตัวเพื่อคว้าโอกาสจากเทรนด์การท่องเที่ยวยุคใหม่ดังนี้ 1.ปรับรูปแบบผลิตภัณฑ์และบริการให้ตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวที่มีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้นเช่น ธุรกิจโรงแรมปรับปรุงที่พักให้สอดรับมาตรฐาน Green Hotel หรือเข้าร่วมโครงการ Sustainable Tourism Acceleration Rating (STAR) เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวสายรักษ์ธรรมชาติ และ 2.นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการดำเนินธุรกิจ เช่น ธุรกิจร้านอาหารอาจนำหุ่นยนต์อัตโนมัติเข้ามาช่วยเสิร์ฟอาหารเพื่อลดผลกระทบจากปัญหาขาดแคลนแรงงาน

นอกจากนี้ เสนอให้ภาครัฐพิจารณาแนวนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยมุ่งเน้นไปที่ 1.เจาะตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มศักยภาพสูงโดยอาจเพิ่มทางเลือกในส่วนของประกันสุขภาพให้กับกลุ่ม Digital Nomad ที่มาขอ Destination Thailand Visa Revealed (DTV)  2.ผลักดันให้เกิดกระแสการเดินทางเที่ยวตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในเมืองรองโดยเชื่อมโยงกับกลุ่ม Wellness Tourism ที่ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงวัยที่สามารถท่องเที่ยวในวันธรรมดาได้ 3.เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวทั้งในประเทศ และระหว่างประเทศรวมถึงสร้างระบบด้านความปลอดภัยซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นและดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวไทยมากขึ้น


Advertisement
Leaderboard 728x90
Advertisement
Billboard