น้ำตาลขอนแก่นมั่นใจปีนี้รายได้ใกล้เคียงปีก่อนที่ 1.87 หมื่นล้านบาท แม้ว่าปริมาณอ้อยเข้าหีบลดลงแต่ราคาน้ำตาลโลกพุ่งสูง คาดปีหน้าบริษัทโตต่อเนื่องจากมีปริมาณอ้อยเข้าหีบเพิ่ม โรงงานใหม่ที่สระแก้วเดินเครื่องผลิตในเดือนธันวาคม 67 รับรู้กำไรจากโครงการ SAF และราคาน้ำตาลยังทรงตัวระดับสูง
นายชลัช ชินธรรมมิตร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.น้ำตาลขอนแก่น หรือ KSLเปิดเผยว่า ผลประกอบการปี 2567 บริษัทมีรายได้ใกล้เคียงปี 2566 ที่มีรายได้รวม 18,695 ล้านบาท เนื่องจากฤดูการผลิตปี 2566/67 มีปริมาณอ้อยเข้าหีบลดลง 20% อยู่ที่ 5.43 ล้านตัน/ปี แต่ราคาขายน้ำตาลทรายสูงขึ้น 30% อยู่ที่ 25-26 เซ็นต์/ปอนด์ในช่วงต้นปีนี้ ซึ่งเป็นระดับราคาที่ดีที่สุดในรอบ 12 ปี คาดว่าทั้งปี 2567 ราคาน้ำตาลตลาดโลกเฉลี่ยอยู่ที่ 22-23 เซ็นต์/ปอนด์
ส่วนแนวโน้มผลประกอบการปี 2568 บริษัทคาดว่าเติบโตขึ้นหลังจากโรงงานน้ำตาลที่สระแก้วกำลังการผลิต 20,000 ตันต่อวัน หรือกำลังการผลิตสูงสุด 1.2 ล้านตันอ้อยต่อปี จะเดินเครื่องในเดือน ธ.ค. 2567 ส่งผลให้งวดปี 2567/2568 จะมีปริมาณหีบอ้อยเพิ่มขึ้น 10-15% มาอยู่ที่ 6.5 ล้านตันอ้อย แต่แนวโน้มราคาน้ำตาลยังทรงตัวหรือลดลงเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อน คาดเฉลี่ยทั้งปี 2568 อยู่ที่ 20-21 เซ็นต์ต่อปอนด์
ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของ KSL ยังคงมาจากธุรกิจน้ำตาลเป็นหลัก คิดเป็นสัดส่วน 70-80% ส่วนธุรกิจไฟฟ้าประมาณ 15% และส่วนที่เหลือมาจากธุรกิจอื่นๆ เช่น การถือหุ้นในบริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ BBGI ที่ปัจจุบันมีกำไรเติบโตขึ้นจากยอดขายไบโอดีเซลและเอทานอลที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก หลังจากบางจากฯ ควบรวมเอสโซ่ และในปี 2568 BBGI จะบันทึกกำไรเพิ่มขึ้นจากโครงการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) ที่จะเริ่มผลิตในเดือน พ.ค. 2568 นอกจากนี้บริษัทยังมองหาโอกาสต่อยอดธุรกิจที่มีอยู่ อาทิ เจรจาขายไฟฟ้าส่วนที่เหลือใช้ ตอนนี้มีประมาณ 40-50 เมกะวัตต์ ให้กลุ่มลูกค้าที่สนใจ
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนจะขายโรงงานน้ำตาลที่กัมพูชาที่ขณะนี้ได้หยุดเดินเครื่อง และทยอยบันทึกเป็นด้อยค่าสินทรัพย์อยู่ ส่วนโรงงานน้ำตาลที่ลาวยังดำเนินการผลิตและสร้างกำไรให้ปีละ 200 ล้านบาท
ปัจจุบันบริษัทเร่งทำตลาดผลิตภัณฑ์ Kane’s (เคนส์) ที่เป็นน้ำตาลทรายจากอ้อยธรรมชาติที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ หรือ Low GI เน้นจับกลุ่มผู้บริโภครักสุขภาพ และกลุ่มคนที่มีโรคประจำตัว ร้านขนม หรือ SME ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับค่อนข้างดี โดยบริษัทมีการผลิตน้ำตาล Kane’s ราว 1,000 ตันต่อปี
