Advertisement
Leaderboard 728x90

วันสมาชิกชาวไร่

กลุ่มพูลผล และกลุ่มบริษัท เอสเอ็มเอส จัดงาน “วันสมาชิกชาวไร่” ประจำปี 2566/2567 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 30 สานต่อการช่วยเหลือและสนับสนุนสมาชิกชาวไร่ของบริษัท ภายใต้แนวคิด “เพื่อนคู่คิด สมาชิกชาวไร่” พร้อมรุกจัดโครงการเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุนเพาะปลูก มุ่งสร้างการเติบโตทางธุรกิจ พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังสู่ความยั่งยืน

กลุ่มบริษัท เอสเอ็มเอส เป็นบริษัทหนึ่งในกลุ่มพูลผล ซึ่งก่อตั้งมากว่า 37 ปี และเป็นผู้ผลิตแป้งมันสำปะหลังดัดแปรคุณภาพสูงระดับแนวหน้าของประเทศไทยและของโลกที่ตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมอย่างหลากหลายทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเป็นผู้ริเริ่มนำแป้งมันสำปะหลังมาดัดแปร โดยใช้เทคโนโลยีอันทันสมัย เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่มันสำปะหลัง และเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อาหาร กระดาษ สิ่งทอ กาว อาคารและสิ่งก่อสร้าง รวมถึงพลาสติกชีวภาพ ทั้งนี้ กลุ่ม เอสเอ็มเอส มีโรงงานผลิตแป้งมันสำปะหลังดัดแปรทั้งหมด 3 แห่งที่ปทุมธานี ชัยภูมิ และบุรีรัมย์ ด้วยกำลังการผลิตรวมประมาณ 4 แสนตันต่อปีส่งผลให้กลุ่มบริษัท เอสเอ็มเอส ครองตำแหน่งเป็นผู้ผลิตแป้งมันสำปะหลังดัดแปรของคนไทยรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทยในขณะนี้

Advertisement
อ่าวขนอม ซีฟู้ด

โรงเรียนมันสำปะหลัง

ดร. วีรวัฒน์ เลิศวนวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสเอ็มเอสคอร์ปอเรชั่น จำกัด ว่า การจัดงาน “วันสมาชิกชาวไร่” ประจำปี 2566/2567 ครั้งนี้ถือเป็นปีที่ 30 ซึ่งบริษัทฯ ได้ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนเกษตรกรให้ยืดอาชีพการปลูกมันสำปะหลังเป็นอาชีพที่มั่นคงผ่านรูปแบบ “ระบบสมาชิกชาวไร่” โดยการรับซื้อผลิตผลหัวมันสำปะหลัง ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักจากเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่องมานานกว่า 30 ปี ซึ่งแต่ละปีบริษัทฯ จะซื้อผลผลิตจากเกษตรกรมากกว่า 3,700 ครอบครัว

นอกจาก “วันสมาชิกชาวไร่” ที่จัดเป็นประจำทุกปีแล้ว บริษัทฯ ยังได้จัดโครงการและกิจกรรมต่างๆ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรทั้งด้านการเพิ่มผลผลผลิต การช่วยเหลือต้นทุนเพาะปลูก เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของเกษตรกร ภายใต้แนวคิด “เพื่อนคู่คิด สมาชิกชาวไร่”เนื่องจากบริษัทฯ ตระหนักดีว่า หนึ่งในปัจจัยแห่งความสำเร็จของกลุ่มบริษัท เอสเอ็มเอส ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา คือ “เกษตรกร” ซึ่งเปรียบเสมือน “หุ้นส่วนที่สำคัญ” ของบริษัทฯ ดังนั้น ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ จึงได้ดำเนินการผ่าน “ระบบสมาชิกชาวไร่” และได้ขับเคลื่อนจนทำให้เกิดการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ทางด้านเกษตรกรก็ได้รับการพัฒนาคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นผ่านการดำเนินทำโครงการ รวมทั้งกิจกรรมต่างๆ อีกมากมายของบริษัทฯ กับเกษตรกร ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและชุมชนความมุ่งมั่นของบริษัทฯ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร โดยเฉพาะการเพิ่มผลผลิตและการลดต้นทุนของเกษตรกรว่า “บริษัทฯ ได้ดำเนิน “โครงการการเพิ่มผลิตมันสำปะหลัง” ภายใต้สโลแกน “เพื่อนคู่คิด สมาชิกชาวไร่” เพื่อมุ่งส่งเสริมการเพิ่มผลผลิตของเกษตรกรต่อไร่ให้สูงขึ้นในรูปแบบของ SMS Model เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ นับแต่ปัญหาจากการเพาะปลูกของเกษตรกรที่ส่งผลให้ผลผลิตต่อไร่ลดลง ซึ่งบริษัทฯ ได้นำประเด็นปัญหาดังกล่าวมาพูดคุยในกลุ่มสมาชิก เพื่อหา “ปัจจัยสู่ความสำเร็จ” ทั้งการค้นคว้าหาข้อมูลที่หน่วยงานวิชาการได้มีการศึกษามาก่อนแล้ว หรือการทดลองต่างๆ เพื่อนำมาสู่ทางการแก้ปัญหา หรือการทดลองร่วมกับเกษตรกรที่สนใจ และนำสิ่งที่ได้เหล่านี้ไปส่งเสริมให้ความรู้แก่เกษตรกร ประกอบด้วย 1) การแบ่งปันความรู้ทั่วไปทางด้านการปลูกมันสำปะหลังให้กับเกษตรกรด้วยกัน 2) การทำแปลงสาธิต เช่น การใส่ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินเพื่อลดการใช้ปุ๋ยโดยไม่จำเป็น และลดการปลดปล่อยคาร์บอน ไดออกไซด์ 3) การพัฒนาปรับปรุงคุณภาพดิน ด้วยปุ๋ยพืชสด เทคโนโลยีเครื่องจักรกลการเกษตรเพื่อหาเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้เกษตรกรได้รู้จัก 4) การปลูกมันสำปะหลังด้วยการใช้ Bio Plastic Mulch Film ซึ่งเป็นฟิล์มคลุมดินที่ย่อยสลายได้เพื่อระบบนิเวศ

มันสำปะหลัง

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังดำเนินโครงการช่วยเหลือและลดต้นทุนการปลูกของเกษตรกร โครงการช่วยเหลือดังกล่าวบริษัทฯ ได้ดำเนินการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น ในปี 2560 ซึ่งราคามันสำปะหลังตกต่ำลงอย่างมาก บริษัทฯ ให้ความช่วยเหลือเป็นเงินพิเศษแก่เกษตรกรคู่ค้ามากกว่า 1,900 ราย คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้นกว่า 4 ล้านบาท, การทำปุ๋ยหมักจากเปลือกดิน เพื่อลดการใช้ปุ๋ยไนโตรเจน และยังช่วยปรับโครงการดินให้มีสารอินทรีย์เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังได้แจกพันธุ์มันดี เพื่อลดการซื้อต้นพันธุ์ โดยเกษตรกรนำต้นพันธุ์ไปปลูกจนเพียงพอ แล้วนำมาคืนในปีถัดไปเพื่อแจกจ่ายให้เกษตรกรคนอื่นๆ ได้มีปลูกต่อไป

ขณะเดียวกัน กลุ่มเอสเอ็มเอส ยังมีโครงการเพื่อความกินดีอยู่ดีของเกษตรกรในนามของ “โครงการอยู่ดี มีความสุขของเกษตรกร” ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกร ชุมชน ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยบริษัทฯ ได้ทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้างรายได้ของชุมชนและด้านสุขภาพ ประกอบด้วย

Advertisement
The Xpozir
  • การเพาะเห็ดจากเศษดินและเปลือกมันสำปะหลังในโรงเรียน และชุมชน ซึ่งเป็นของเหลือจากกระบวนการผลิตของโรงงาน เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนมีความรู้นำไปประกอบอาชีพ และขยายผลสู่การสร้างรายได้ให้ชุมชน โดยบริษัทฯ ได้สนับสนุนวัตถุดิบ และวิทยากรเพื่อสอนการเพาะเห็ดฟางกองเตี้ยอย่างง่ายๆ ตลอดจนการสร้างโรงเรือนเพื่อเพาะเห็ด และกิจกรรมนี้ก็ทำให้โรงเรียนสามารถนำเห็ดไปประกอบอาหารกลางวันเลี้ยงเด็กนักเรียน หรือจำหน่ายให้ชุมชนในราคาถูกได้อีกด้วย
  • การดูแลสุขภาพของเกษตรกร โดยจัดการอบรมเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้สารเคมีอย่างถูกต้องและปลอดภัย รวมทั้งตรวจหาสารเคมีในเลือดให้แก่เกษตรกร
  • ศูนย์เรียนรู้มันสำปะหลัง เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับชุมชน โดยให้ความรู้กับนักเรียนอย่างครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เพื่อทำให้เยาวชนเข้าใจเกี่ยวกับอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการปลูกมันสำปะหลังได้มากขึ้น
  • การรณรงค์งดใช้แรงงานผิดกฎหมายทั้งด้านของแรงงานบังคับ และแรงงานเด็ก

โครงการของบริษัทฯ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมและนำ AgriTech มาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับเกษตรกรว่า “บริษัทฯ ได้ดำเนินโครงการ “ส่งมาก แลกได้มาก” เพื่อเปิดโอกาสให้เกษตรกรสมาชิกคู่ค้าได้สะสมแต้มจากการขายหัวมันสำปะหลัง และนำมาแลกเป็นของรางวัลต่างๆ นอกจากนี้ เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการยังได้รับสิทธิพิเศษต่างๆ อีกมากมาย และติดตามข่าวสาร โดยปัจจุบันบริษัทฯ ได้พัฒนาแอปพลิเคชั่น FMS (Farmer Member Survey) ที่มีความทันสมัย เพื่อตอบสนองการใช้งานของเกษตรกร และสอดคล้องกับวิถีชีวิตของเกษตรกรในปัจจุบัน พร้อมทั้งทำให้เกษตรกรสามารถดูคะแนนสะสมจากการขายหัวมันสำปะหลัง รวมทั้งการจอง และการแลกของรางวัล ตลอดจนการจองคิวเพื่อขายมันสำปะหลัง อีกทั้งสามารถบันทึกข้อมูลเพาะปลูก และบันทึก ต้นทุนการเพาะปลูกผ่านแอปพลิเคชั่นนี้ได้อีกด้วย


Advertisement
Leaderboard 728x90
Advertisement
Billboard