Advertisement
Leaderboard 728x90

สยามดิสคัฟเวอรี่ขนแบรนด์ใหม่-ร้านดังดึงนักช็อป

“สยามดิสคัฟเวอรี่” เดินหน้าเพิ่มแม็กเนต คว้าแบรนด์ดัง-เปิดโซน Flavor Lab รวมร้านอาหารชื่อดัง ดึงคนรุ่นใหม่ พร้อมยกทัพสินค้าคอลเล็กชั่นพิเศษ ย้ำ Gifts Destination รับจับจ่ายปลายปี คาดเพิ่มยอดขาย 10-15%

นางสรัลธร อัศเวศน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานบริหารธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า ทิศทางการดำเนินงานจากนี้ไป สยามดิสคัฟเวอรี่ ยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างแม็กเนตและนำเสนอประสบการณ์ที่แปลกใหม่อย่างต่อเนื่องหลังจากที่ตั้งแต่ต้นปี สยามดิสคัฟเวอรี่ได้นำเสนอ K-Culture มาสู่ประเทศไทย ด้วยการนำเสนอเทรนด์K-Culture อย่างจริงจัง โดยเริ่มตั้งแต่การนำ Carlynแบรนด์กระเป๋าชื่อดังจากเกาหลีใต้ มาเปิด Carlyn Popup Boutique แห่งแรกแห่งเดียวในประเทศไทย รวมทั้งได้เดินหน้านำแบรนด์ใหม่ ๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่องและเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ได้คว้าร้านโดนัทชื่อดังจากสหรัฐอเมริกา อย่าง Duck Donuts มาเปิดร้านเป็นแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เช่นเดียวกัน

Advertisement
Kreamy Proof

สยามดิสคัฟเวอรี่

ล่าสุดเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้ร่วมกับ Shinsegae ห้างสรรพสินค้าลักเซอรี่อันดับ 1 ในเกาหลีใต้ เปิดพ็อปอัพสโตร์K-Fashion82 ร้านมัลติแบรนด์แฟชั่นที่กำลังมาแรงในเกาหลีเข้ามาเปิดเป็นครั้งแรกในไทย อาทิ แบรนด์RYU CLASSIC, GRACE U, SEMICODE, FROMYITH, ADD STUDIO, TEENY TIGER เป็นต้น

นายโจเซฟ เตียว ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจและวางแผนกลยุทธ์ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า นอกจากการเพิ่มแบรนด์ใหม่ ๆ แล้วยังมีอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญสำหรับช่วงปลายปี คือ การปรับพื้นที่ของชั้น 3 ทั้งหมด ให้เป็นโซเชียลคอมมิวนิตี้และพื้นที่ของร้านอาหารใหม่ ที่เรียกว่า Flavor Lab เพื่อนำเสนอร้านอาหารใหม่ ๆ ทั้งไทยและนานาชาติ อาทิ อาหารจีน เกาหลี รวมถึงอาหารนานาชาติยอดนิยมโดยเชฟระดับมิชลินสตาร์ ทำให้ปัจจุบันสยามดิสคัฟเวอรี่ มีร้านอาหารทั้งที่เปิดแล้ว และที่กำลังจะเปิดในคอนเซ็ปต์Flavor Lab รวม 12 ร้าน มีพื้นที่รวมกว่า 2,500 ตารางเมตรและภายในเดือนธันวาคมนี้ จะมีทั้งร้านที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในไทย และร้านอาหารคอนเซ็ปต์ใหม่ อาทิ Borngaร้านปิ้งย่างชื่อดังจากเกาหลีใต้ Kagonoyaร้านอาหารญี่ปุ่นพรีเมี่ยมชาบู และ Kungthong Seafood ร้านอาหารไทยชื่อดังเรื่องซีฟู้ด เป็นต้น รวมถึงต้นปีหน้าเดือนมกราคม 2567 ก็จะมีมาเปิดเพิ่มอีก อาทิ Roberta’s ร้านพิซซ่าชื่อดังจากสหรัฐอเมริกา

เพื่อตอบสนองพฤติกรรมความต้องการของลูกค้าที่ต้องการความหลากหลาย รวมถึงเพื่อเป็นการช่วยขยายช่วงเวลาที่ลูกค้าใช้ภายในศูนย์ให้เพิ่มขึ้น โดยคาดว่าลูกค้าจะใช้เวลาในศูนย์มากขึ้นอย่างน้อย 1 ชั่วโมง จากที่ปกติมาซื้อของอย่างเดียวแล้วก็กลับ

พร้อมเนรมิตบรรยากาศในช่วงเฟสทีฟซีซั่น ด้วยผลงานคอลลาบอเรชั่นระดับโลก ด้วยการทุ่มงบฯ 50 ล้านบาท จัดงาน “Sustainable Living X’mas Tree 2023” ที่สยามดิสคัฟเวอรี่ ร่วมกับ Bellygomหมีสีชมพูขี้เล่นสุดน่ารักจากเกาหลีใต้ ที่จะมามอบความพิเศษด้วยกระดาษห่อของขวัญลายหมี Bellygomและพบกับสินค้าของขวัญสุดพิเศษแคแร็กเตอร์Bellygomวางจำหน่ายที่ร้านลอฟท์ ชั้น 2 สยามดิสคัฟเวอรี่

Advertisement
The Xpozir

นอกจากนี้ยังร่วมมือกับ บริษัท พีทีที โกลบอลเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC นำเสนอต้นคริสต์มาสรักษ์โลกที่อัพไซเคิลจากพลาสติก และมีไฮไลต์จากแบรนด์Bellygomเข้ามาช่วยเติมเต็มให้ Sustainable Living X’mas Tree 2023 พิเศษและสดใสเพิ่มขึ้น ซึ่งจะจัดแสดงให้ชม ณ ดิสคัฟเวอรี่พลาซ่า ระหว่างวันที่ 17 พฤศจิกายน 2566 ไปจนถึง 14 มกราคม 2567

ที่ผ่านมากลุ่มลูกค้าที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่เข้ามาจับจ่ายที่ศูนย์การค้าเพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่มีกลุ่มลูกค้าเป็นกลุ่ม Gen-X, Gen-Y รวมถึงยังมียอดทราฟฟิกที่สูงขึ้นเช่นเดียวกัน จากเดิมอยู่ที่ 40,000-50,000 คนต่อวัน ก็เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 50,000-70,000 คนต่อวัน และจากการเปิดตัวร้านใหม่และแผนกิจกรรมส่งเสริมการตลาดดังกล่าวจะทำให้ยอดขายเติบโตขึ้นกว่า 10-15%


Advertisement
Leaderboard 728x90
Advertisement
Billboard