Advertisement
Leaderboard 728x90

ครม. อนุมัติ 5 มาตรการสกัดสินค้าผิดกฎหมายจากต่างประเทศ

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)วันนี้ 3 กันยายน 2567 มีมติเห็นชอบมาตรการป้องกันและปราบปรามธุรกิจขายสินค้าจากต่างประเทศที่ผิดกฎหมายทั้งในรูปแบบออนไลน์ และออฟไลน์ กำหนดให้ผู้ประกอบการ e-commerce จากต่างประเทศต้องจดทะเบียนนิติบุคคลและต้องมีสำนักงานในไทยปรับปรุงกฎหมายให้ผู้ขายสินค้า-แพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าออนไลน์จากต่างประเทศต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มกับกรมสรรพากรตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอหลังจากได้ประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองเปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)มีมติเห็นชอบมาตรการป้องกันและปราบปรามธุรกิจขายสินค้าจากต่างประเทศที่ผิดกฎหมายทั้งในรูปแบบออนไลน์ และออฟไลน์ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอหลังจากได้ประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยมีข้อเสนอทั้งหมด 5 มาตรการ และ 63 แผนปฏิบัติการ ดังนี้

Advertisement
อ่าวขนอม ซีฟู้ด

มาตรการที่ 1ให้หน่วยงานรัฐบังคับใช้ระเบียบและกฎหมายอย่างเข้มข้นโดยเพิ่มการตรวจเข้มสินค้า ณ ด่านศุลกากร รวมถึงเพิ่มอัตราการเปิดตู้สินค้าเพื่อตรวจสอบคุณภาพสินค้าให้เป็นไปตามมาตรฐานของไทยและเพิ่มความถี่ในการตรวจสอบผู้ประกอบการหรือผู้ให้บริการให้ปฏิบัติตามกฎหมายไทย

มาตรการที่ 2ปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบให้สอดคล้องกับการค้าในอนาคตโดยกำหนดเงื่อนไขให้ผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศต้องจดทะเบียนนิติบุคคล และมีสำนักงานในไทยเพื่อให้ภาครัฐสามารถกำกับดูแลได้อย่างใกล้ชิด

มาตรการที่ 3ด้านภาษี โดยปรับปรุงประมวลกฎหมายรัษฎากรสำหรับผู้ขายสินค้าออนไลน์จากต่างประเทศและแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าออนไลน์ที่จำหน่ายสินค้าในไทยจะต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มกับกรมสรรพากรพร้อมจัดอบรมให้ความรู้กับผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบรวมถึงการให้ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการยื่นคำขอและไต่สวนในการใช้มาตรการภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด หลบเลี่ยงการตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุนมาตรการปกป้องการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยให้สามารถร้องเรียนได้

มาตรการที่ 4การช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ของไทย โดยใช้เทคโนโลยีเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ในการผลิต เพื่อขยายการส่งออกสินค้าไทยผ่านอีคอมเมิร์ซเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถแข่งขันได้ในยุคการค้าโลกใหม่

Advertisement
The Xpozir

มาตรการที่ 5การสร้างหรือต่อยอดความร่วมมือกับประเทศคู่ค้าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะประเทศจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้

นอกจากนี้ จะมีการจัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจเพื่อทำหน้าที่ในการกำกับและติดตามการนำเข้าสินค้าที่ไม่มีคุณภาพละเมิดลิขสิทธิ์ตลอดจนการดำเนินธุรกิจผิดกฎหมายของของผู้ประกอบการต่างประเทศในไทยส่วนการจัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจนั้น จะต้องรอการอนุมัติจาก ครม.ชุดใหม่

ครม. ได้มีข้อสั่งการให้หน่วยงานเร่งตรวจสอบผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซต่างประเทศให้เข้ามาจดทะเบียนนิติบุคคลในประเทศไทย

อย่างไรก็ดีหากพบว่าผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซต่างประเทศไม่เข้ามาจดทะเบียนนิติบุคคลในไทยก็อาจะต้องมีมาตรการตอบโต้ ซึ่งรัฐบาลโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่นกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี)สามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มดังกล่าวได้ ส่วน กสทช.จะดูแลในเรื่องการเข้าถึงสื่อ


Advertisement
Leaderboard 728x90
Advertisement
Billboard